เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 บัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย–เยอรมัน (TGGS) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) จัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรในรูปแบบการศึกษาดูงานห้องปฏิบัติการและศูนย์วิจัย โดยมีคณาจารย์และนักศึกษาระดับปริญญาตรีหลักสูตรนานาชาติ 2 สาขา ได้แก่ วิศวกรรมการออกแบบไมโครอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ (MEDE) และ วิศวกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและระบบอัตโนมัติ (EVAE) ซึ่งถือเป็นนักศึกษารุ่นแรกของหลักสูตร เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง
โอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ นายกสภามหาวิทยาลัยฯ มอบโอวาทแก่คณาจารย์และนักศึกษา โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.นิสัย เฟื่องเวโรจน์สกุล คณบดี TGGS, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สราวุฒิ สืบแย้ม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการคลังและกิจการทั่วไป พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและคณาจารย์ TGGS ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 และบันทึกภาพร่วมกัน ก่อนเข้าสู่การศึกษาดูงาน ณ อุทยานเทคโนโลยี มจพ. ซึ่งนักศึกษาได้เยี่ยมชมศูนย์และห้องปฏิบัติการที่สำคัญ อาทิ ศูนย์การเรียนรู้นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ศูนย์ปฏิบัติการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ศูนย์ปฏิบัติการเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ ศูนย์ปฏิบัติการเทคโนโลยีระบบราง และศูนย์ปฏิบัติการอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและนวัตกรรมดิจิทัล
ภาคบ่าย ได้เข้าศึกษาดูงานที่ คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ โดยเยี่ยมชม KMUTNB National Semiconductor Training Center และห้องปฏิบัติการด้านเซมิคอนดักเตอร์ ต่อด้วยการเยี่ยมชม ศูนย์ความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีวิศวกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ วทอ. สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย–ฝรั่งเศส (TFII) ได้แก่ Renewable Energy Research Center, Materials for Energy Applications Center และ TFII–Schneider Electric Center of Excellence จากนั้นได้เข้าชม สำนักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STRI) และปิดท้ายด้วยกิจกรรมเสริมด้านศิลปวัฒนธรรม ณ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมมงกุฎนฤบดี หอเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และหอเกียรติประวัติ มจพ. อาคารนวมินทรราชินี
กิจกรรมดังกล่าวนับเป็นโอกาสสำคัญที่นักศึกษา TGGS รุ่นแรก จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงในห้องปฏิบัติการและศูนย์วิจัยชั้นนำของ มจพ. ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจเชิงปฏิบัติ ต่อยอดองค์ความรู้ด้านวิศวกรรม และเตรียมความพร้อมสู่การเป็นกำลังคนคุณภาพให้กับภาคอุตสาหกรรมต่อไปในอนาคต
รุ่งนภา/เผยแพร่